ไทยยูเนี่ยน เปิดตัว ECOTWIST® นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เปลี่ยนโลก ภายใต้แบรนด์จอห์น เวสต์
กรุงเทพฯ – 24 มิถุนายน 2567 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศเปิดตัว ECOTWIST® ของแบรนด์จอห์น เวสต์ (John West) ซึ่งเป็นโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการออกแบบ เพื่อให้ใช้งานง่าย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และลดจำนวนขยะบรรจุภัณฑ์ให้มากที่สุด โดยจะเริ่มเปิดตัวที่สหราชอาณาจักรเป็นแห่งแรก เพราะเป็นหนึ่งในตลาดหลักของไทยยูเนี่ยน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้บริโภคชาวอังกฤษสามารถหาซื้อ John West ECOTWIST® ได้ที่ร้าน Asda ทุกสาขา และจะมีวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่อื่น ๆ ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้กลุ่มบริษัทกำลังอยู่ระหว่างพิจารณานำ ECOTWIST® ไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ต่อไป

ECOTWIST® คือ นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ล้ำสมัยที่สุด
ECOTWIST® ถือเป็นการเดินหน้าสร้างนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องของ สหราชอาณาจักร ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดย ECOTWIST® เป็นอีกก้าวสำคัญของ John West ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทูน่าคุณภาพเยี่ยม ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดปัญหาจากบรรจุภัณฑ์ส่วนเกินและช่วยลดขยะได้อย่างยั่งยืน
นายพอล รีแนน ประธานกรรมการบริหาร ไทยยูเนี่ยน ภูมิภาคยุโรป กล่าวว่า "แบรนด์ John West ใช้เวลากว่า 3 ปี ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืน จนประสบความสำเร็จออกมาเป็นนวัตกรรม ECOTWIST® ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในอุตสาหกรรม ช่วยให้การดำเนินชีวิตของผู้บริโภคสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยบรรจุลงในรูปแบบมัลติแพ็ค ที่ล้ำสมัย สะดวกต่อการใช้งาน การจัดเก็บ และนำไปรีไซเคิลได้ง่าย นอกจากนี้ การที่สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ของเราในสหราชอาณาจักรได้ส่งผลให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของร้านค้าปลีกมากขึ้น ตลอดจน สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและแบรนด์สินค้ารายอื่น ๆ "
ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 อย่างต่อเนื่อง
ECOTWIST® ที่ใช้นวัตกรรม SmartStrip® ในการนำกระป๋องมาวางต่อกันในแนวสูง ซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร มีจุดเด่นของนวัตกรรมดังนี้
- กระป๋องดีไซน์ใหม่ น้ำหนักเบา: บรรจุทูน่าคุณภาพได้ในปริมาณเท่าเดิม แต่ใช้กระป๋องขนาดเล็กและเบากว่า ลดการใช้เหล็กเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ได้กว่า 400 ตันต่อปี
- ลดการใช้วัตถุดิบส่วนประกอบ / ทรัพยากร: จากขนาดกระป๋องที่ลดลง ทำให้ปริมาณน้ำมันทานตะวัน น้ำแร่ หรือน้ำเกลือภายในกระป๋องลดน้อยลง ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภค สามารถลดการใช้ทรัพยากรได้ถึง 1,500 ตันต่อปี
- ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก shrink wrap ได้มากถึง 65 ตันต่อปี
- ลดการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ: ได้ถึง 300 ตันต่อปี
- รีไซเคิลง่าย: ผู้บริโภคสามารถนำกระป๋องเหล็กไปรีไซเคิลได้ง่าย โดยไม่ต้องแยก SmartStrip® ออกจากกระป๋อง
นายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "นวัตกรรม ECOTWIST® จะช่วยให้เราสามารถบรรลุ 3 พันธกิจสำคัญภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัททั้งหมด จะต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนภายในปี 2568 และการลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 42 เปอร์เซ็นต์ ตลอดห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2573 การเปิดตัว ECOTWIST® ของแบรนด์ John West ในครั้งนี้ ยังเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก Marine Stewardship Council หรือ MSC ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของไทยยูเนี่ยนที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องทั้งหมดได้การรับรองจาก MSC, อยู่ในขั้นตอนการประเมินของ MSC และหรือเป็นโครงการพัฒนาการประมงปลาทูน่า (Fishery Improvement Project: FIP) เพื่อเข้าสู่การประเมินของ MSC ภายในปี 2568"
ผลิตภัณฑ์แบรนด์ John West จากนวัตกรรม ECOTWIST® ในกลุ่ม “No drain” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้การรับรองตามมาตรฐาน MSC เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ กำหนดให้ผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรม ECOTWIST® ทั้งหมดต้องได้การรับรองตามมาตรฐาน MSC ภายในปี 2568 นอกจากนี้ John West ยังตั้งเป้าหมายที่จะให้ผลิตภัณฑ์ทูน่าทั้งหมดได้การรับรองมาตรฐาน MSC เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำแบรนด์อาหารทะเลแบบกระป๋องที่ยั่งยืนของสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน John West เป็นแบรนด์ปลาทูน่ากระป๋องชั้นนำของสหราชอาณาจักร ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้การรับรองจาก MSC มากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่ม Great Britain คือ อังกฤษ สก๊อตแลนด์ และเวลส์
###
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมา 47 ปี
ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 136,153 ล้านบาท (3,912 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน
ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, Hawesta และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ®BONE และ UniQ®DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita
ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายเพื่อสร้าง "การมีสุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์, Healthy Living, Healthy Oceans" โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้คน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ท้องทะเล เราภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) พร้อมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) และได้รับเกียรติเป็นเป็นประธาน SeaBOS หรือ Seafood Business for Ocean Stewardship
ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 พร้อมขยายขอบเขตการทำงานด้านความยั่งยืนให้ครอบคลุมมิติของผู้คนและสิ่งแวดล้อม ไทยยูเนี่ยนดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยยึดหลักกลยุทธ์ SeaChange® ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากผลการประเมินงานด้านความยั่งยืนปี 2565 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน และยังได้รับการจัดอันดับในดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) เป็นอันดับหนึ่ง 3 ปีติดต่อกัน และในปี 2566 ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน S&P Global Sustainability Yearbook 2023 ตลอดจนได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนระดับ B จากสถาบันประเมินความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือระดับโลก Carbon Disclosure Project (CDP) สะท้อนความความโปร่งใสและการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ในปี 2566 ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนได้ที่ seachangesustainability.org.